ตัวอย่างที่เห็นกันได้บ่อยๆ คือ การปรับฮวงจุ้ยเพื่อเสริมให้ธุรกิจการงานเจริญรุ่งเรือง เริ่มจาก
โต๊ะทำงานต้องตั้งอยู่ในจุดทแยงมุมกับประตูห้อง ตำแหน่งที่สามารถมองเห็นทางเข้า-ออกได้สะดวก
เก้าอี้ต้องหันพิงพนังหรือตู้เอกสาร อันจะแสดงถึงความมั่นคงในตำแหน่ง และช่วยให้สามารถมองรอบด้านได้ด้วยวิสัยทัศน์กว้างไกล
ขนาดของโต๊ะเลือกที่เหมาะสมกับขนาดของห้อง ความกว้างของโต๊ะหมายถึง “ขุนนาง” ความลึก หมายถึง “โชคลาภ” และความสูง หมายถึง “คุณธรรม”
บนโต๊ะให้วาง “เรือสำเภา” ซึ่งเป็นตัวแทนของพ่อค้ามาตั้ง โดยหันหัวเรือเข้าบ้านเพื่อจะได้พา “โชคลาภ เงินทอง”เข้ามาในบ้านเรือน
หน้าบ้านตั้ง “ม้า” ให้หันหน้าออกนอกบ้าน “หน้าที่การงานจะได้เติบโตรวดเร็ว”
ประตู “แขวนน้ำเต้า” เรียกเงินทองเข้าบ้าน ถ้าแขวนในห้องคนป่วยก็จะช่วยให้หายวันหายคืน
ตั้งแจกันดอกไม้ ต้นไม้มงคล เช่น ทับทิม กวนอิม ไว้ตรง 2 ข้างของประตูหรือมุมต่างๆ ของบ้าน เป็นถังใส่เงินใส่ทองไม่ให้รั่วไหลไปไหนโชคดีในเรื่องงานแล้ว ก็ต้องโชคดีในเรื่องของความรักด้วย
ส่วนเรื่องความรัก อ.วิศิษฎ์แนะนำว่า..
หนุ่มสาวที่กำลังมองหาความรักมาเติมสีชมพูให้กับชีวิต หาเป็ดปักกิ่งคู่สีเขียวมาตั้งไว้ตรงหน้าต่างห้องนอนตามทิศเสน่ห์ของแต่ละคน
ส่วนใครที่เจอคู่ของตัวเองแล้ว และอยากให้รักยืนยาวไปนาน คงต้องอาศัยความรัก ความเข้าใจ และการให้อภัยต่อกันเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด
“หลักสำคัญของฮวงจุ้ยเพื่อเสริมให้บ้านเป็นบ้านแห่งรักคือ ต้องมีสิ่งของแห่งความทรงจำดีๆ เช่น ของที่ชอบร่วมกัน เฟอร์นิเจอร์จากสถานที่ที่ฮันนีมูน เพื่อให้เป็นตัวกลางสื่อรักตามศาสตร์ของจีน ตุ๊กตาเด็ก 2 คน หรือที่เรียกว่า ฮั๊วฮะ หมายถึงความร่วมมือ ส่งผลให้คู่รักกลมเกลียวเหนียวแน่น แขวกระดิ่งหรือระฆังลมไว้ตามระเบียง เพื่อกระจายสิ่งดีๆ ไล่ความชั่วร้าย ดูดความโชคดีและความสงบให้คนในบ้าน โทนสีที่เหมาะกับคู่รักก็ควรจะออกชมพูหรือสีโอโรสก็ดูอบอุ่นเข้ากับบรรยากาศ โรแมนติค” นอกจากของมงคลแล้ว พื้นฐานความรักและความเข้าใจของทุกคนในบ้านก็สำคัญ
เนื้อหา: fwdder, horawej.blogspot
. . .